การขึ้นรูปพลาสติก ถือเป็นจุดกำเนิดของผลิตภัณฑ์พลาสติกหลากหลายประเภทที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่นอกจากกระบวนการฉีด การเป่า การรีด และการอัดแล้ว รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกหนึ่งกระบวนการที่เรียกว่าเทอร์โมฟอร์มมิ่ง (Thermoforming) ซึ่งเป็นวิธีการขึ้นรูปพลาสติกเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อนของรูปทรงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่กระบวนการ Thermoforming ที่ว่านี้คืออะไร และจะเหมาะกับการใช้ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ประเภทใดบ้าง เรามีเกร็ดข้อมูลดี ๆ ที่ผู้ประกอบการควรรู้มาฝาก

การใช้ thermoforming ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก

Thermoforming คืออะไร ?

Thermoforming หรือ เทอร์โมฟอร์มมิ่ง คือการขึ้นรูปพลาสติกโดยการนำแผ่นเทอร์โมพลาสติกไปให้ความร้อน จนกระทั่งแผ่นพลาสติกอ่อนตัว แล้วจึงนำไปขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงตามต้องการ โดยกระบวนการนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่มีรูปร่างซับซ้อนและมีน้ำหนักเบา

ขั้นตอนพื้นฐานของกระบวนการ Thermoforming

  1. นำแผ่นพลาสติกมาให้ความร้อนจนอ่อนตัว
  2. ยืดแผ่นพลาสติกที่อ่อนตัวให้เข้ากับแม่แบบ
  3. ทำให้พลาสติกเย็นตัวลงเพื่อให้คงรูปร่างตามแม่แบบ
  4. ตัดแต่งขอบและส่วนเกินออก

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ได้จากกระบวนการ Thermoforming

กระบวนการ Thermoforming ใช้เพื่อขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกได้หลากหลาย เช่น

  1. บรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ถาดอาหาร กล่องใส่ผลไม้
  2. ชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น แผงหน้าปัดรถยนต์ ชิ้นส่วนตกแต่งภายใน
  3. อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ถาดใส่เครื่องมือผ่าตัด เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
  4. ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้าน เช่น ชั้นวางของ ชั้นวางในตู้เย็น อ่างอาบน้ำ
  5. บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กล่องใส่ของเล่น บรรจุภัณฑ์สำหรับยา

ข้อดีของการขึ้นรูปพลาสติกด้วยกระบวนการ Thermoforming

ขึ้นรูปพลาสติกได้อย่างรวดเร็ว

การใช้วิธีขึ้นรูปแบบเทอร์โมฟอร์มมิ่ง จะใช้เวลาในการผลิตชิ้นงานพลาสติกน้อยกว่าการฉีดหรือเป่า จึงทำให้สามารถผลิตชิ้นงานได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น

ออกแบบได้อย่างยืดหยุ่น

เทอร์โมฟอร์มมิ่งคือวิธีขึ้นรูปพลาสติกที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีรูปทรงซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปรับเปลี่ยนแม่แบบได้รวดเร็วเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชิ้นงาน

พลาสติกสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้

ในการใช้วิธีขึ้นรูปพลาสติกแบบเทอร์โมฟอร์มมิ่งจะมีเศษพลาสติกส่วนเกิน และต้องตัดแต่งให้พอดีกับชิ้นงาน โดยเศษพลาสติกที่เหลือจากการตัดแต่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก

ต้นทุนการผลิตต่ำ

เครื่องมือและแม่พิมพ์ที่ใช้ในการขึ้นรูปด้วยวิธีนี้ จะมีราคาถูกกว่าวิธีการผลิตแบบอื่น ๆ ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตทั้งในปริมาณน้อยและมาก

เทอร์โมฟอร์มมิ่งคือหนึ่งในวิธีขึ้นรูปพลาสติกที่รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ

ประเภทของการใช้วิธี Thermoforming ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก

การขึ้นรูปด้วยวิธี Thermoforming มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีจะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับการผลิตชิ้นงานที่แตกต่างกันด้วยดังนี้

การขึ้นรูปแบบสุญญากาศ

การใช้วิธี Thermoforming ขึ้นรูปแบบสุญญากาศ (Vacuum Forming) เป็นวิธีที่ใช้แรงดูดของสุญญากาศเพื่อดึงแผ่นพลาสติกที่อ่อนตัวให้แนบสนิทกับแม่พิมพ์ เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นงานที่มีรายละเอียดไม่ซับซ้อนมาก อย่างเช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร ถาดพลาสติก หรือชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์

การขึ้นรูปแบบอัดลม

การใช้วิธี Thermoforming ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์แบบอัดลม (Pressure Forming) จะใช้แรงดันอากาศเพื่อดันแผ่นพลาสติกให้แนบกับแม่พิมพ์ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถสร้างชิ้นงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนได้ดีกว่าการขึ้นรูปแบบสุญญากาศ นิยมใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องการความแม่นยำสูง หรือบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียม

การขึ้นรูปแบบอัดด้วยแม่แบบ

การใช้วิธี Thermoforming ขึ้นรูปแบบอัดด้วยแม่แบบ (Mechanical Forming) คือการยึดแผ่นเทอร์โมพลาสติกให้ติดกับกรอบยึด จากนั้นกดอัดแผ่นพลาสติกลงกับแม่แบบให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นงานที่ต้องการความแข็งแรงและความแม่นยำสูง และนิยมใช้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า

กระบวนการ Thermoforming เป็นวิธีการขึ้นรูปพลาสติกที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า สามารถนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์อาหารไปจนถึงชิ้นส่วนยานยนต์ ทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หากมองหาโรงงานขึ้นรูปพลาสติกที่สามารถผลิตชิ้นงานได้หลากหลายวิธี รวมถึงวิธีอย่าง Thermoforming เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เลือกใช้บริการ Molder Enterprise ผู้ให้บริการผลิตแม่พิมพ์และขึ้นรูปพลาสติกด้วยเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน ส่งมอบงานตรงเวลา ช่วยคุณได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพทุกชิ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โทร. 034-476-173