อะลูมิเนียม อีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมที่มักนำมาใช้ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตลอดจนนำมาผลิตเป็นโครงสร้างสำหรับอาคารและชิ้นส่วนรถยนต์ด้วย จึงถือเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล และยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากคุณกำลังสนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจผลิตสิ่งของจากอะลูมิเนียม บทความนี้มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการขึ้นรูปอะลูมิเนียมมาฝากกัน จะมีกี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
คุณสมบัติเด่นของอะลูมิเนียม
ก่อนจะไปเจาะลึกว่ากระบวนการขึ้นรูปอะลูมิเนียมมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบใช้ขึ้นรูปชิ้นงานประเภทใดบ้าง อย่างแรกที่คนสนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจผลิตอะลูมิเนียมควรรู้ คือคุณสมบัติเด่นของวัสดุชนิดนี้ ซึ่งอะลูมิเนียม เป็นแร่ธาตุโลหะชนิดหนึ่ง มีความมันวาวและแข็งแรงทนทาน นิยมนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานตกแต่ง หรืองานชิ้นส่วนต่าง ๆ มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
- มีความหนาแน่นน้อย จึงมีน้ำหนักเบา เพียง 1 ใน 3 ของเหล็ก สะดวกต่อการขนย้ายและใช้งาน
- สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ สามารถนำไปผลิตเป็นโครงสร้างสำหรับก่อสร้างอาคารได้
- จุดหลอมละลายสูงถึง 660 องศาเซลเซียส และหากนำไปผสมกับโลหะอื่น ๆ จุดหลอมเหลวจะสูงถึง 1140-1205 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
- มีความแข็งแรงทนทานสูง ไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนและแตกหักได้ดี ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
- คุณสมบัติทางเคมีอื่น ๆ เช่น
- หากทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จะทำให้เกิดอะลูมิเนียมออกไซด์ ซึ่งเป็นชั้นฟิล์มที่เคลือบผิวอะลูมิเนียมไว้ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาอื่น ๆ
- สามารถนำไฟฟ้าได้ในระดับหนึ่ง
- ไม่สามารถติดไฟได้
- นำมาขึ้นรูปได้หลากหลายวิธี ได้แก่ การหล่อขึ้นรูป การอัดรีดขึ้นรูป การรีดขึ้นรูป การทุบขึ้นรูป ซึ่งเราจะเจาะลึกแต่ละวิธีกันในลำดับถัดไป
การขึ้นรูปอะลูมิเนียมมีกี่แบบ อะไรบ้าง ?
จากคุณสมบัติเด่นหลากหลายประการที่กล่าวไปข้างต้น เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมอะลูมิเนียม จึงเป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหลายภาคส่วน แต่ก่อนที่จะเป็นชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์จากอะลูมิเนียมที่เราเห็นกันตามท้องตลาดนั้น จะต้องผ่านกระบวนการขึ้นรูปอะลูมิเนียมที่เหมาะสมเสียก่อน โดยวิธีขึ้นรูปอะลูมิเนียมที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ได้แก่
1. การหล่อขึ้นรูป (Casting Process)
เป็นการนำอะลูมิเนียมที่หลอมละลายแล้ว อัดฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ตามรูปร่างที่ต้องการด้วยแรงดันสูง แล้วรอจนอะลูมิเนียมเย็นตัว จึงค่อยแกะออกจากแม่พิมพ์ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด ซับซ้อน ปรับใช้ได้กับชิ้นงานหลายขนาด แต่ผิวอาจไม่เรียบเนียนเท่าวิธีอื่น จึงนิยมใช้ขึ้นรูปชิ้นส่วนโลหะและชิ้นส่วนยานยนต์ วิธีนี้จำแนกออกเป็นวิธีย่อย ๆ อีกหลายวิธี เช่น
- การหล่อด้วยแรงดันสูง
- การหล่อด้วยแรงดันต่ำ
- การหล่อด้วยแรงโน้มถ่วง
- การหล่อสุญญากาศ
- การหล่ออัด
2. การอัดรีดขึ้นรูป (Extrusion Process)
กระบวนการอัดรีดขึ้นรูปอะลูมิเนียม เป็นวิธีการแปรรูปโลหะที่ใช้ความร้อนและแรงดันสูง เพื่อบีบอัดอะลูมิเนียมบิลเลต (แท่งอะลูมิเนียมบริสุทธิ์) ให้ไหลผ่านแม่พิมพ์ที่มีรูปทรงที่ต้องการ ทำให้ชิ้นงานที่ได้ออกมามีรูปร่างใกล้เคียงกับแม่พิมพ์ เหมาะกับงานที่มีความซับซ้อน ต้องการพื้นที่หน้าตัดที่คงที่ นิยมนำมาผลิตโครงสร้างหลังคา โครงสร้างผนัง เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนเครื่องจักร กรอบประตู และกรอบหน้าต่าง
3. การรีดขึ้นรูป (Rolling Process)
เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากมีราคาถูกกว่า กระบวนการอัดรีดขึ้นรูปอะลูมิเนียมจะเริ่มจากการให้ความร้อนแม่พิมพ์และอะลูมิเนียมบิลเลต แล้วนำอะลูมิเนียมบิลเลตเข้าสู่เครื่องรีด อะลูมิเนียมก็จะเดินทางผ่านแรงดันจากแม่พิมพ์ จนกลายเป็นอะลูมิเนียมเส้นที่มีรูปร่างตามต้องการ จากนั้นนำไปผ่านความเย็นจนเซตตัว แล้วตัดให้ได้ขนาด อบในเตาอบอีกครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ โดยกระบวนการรีดขึ้นรูปมักใช้ผลิตหน้าต่าง กรอบประตู และวัสดุก่อสร้าง
4. การทุบขึ้นรูป (Forging Process)
การขึ้นรูปอะลูมิเนียมวิธีสุดท้าย คือการทุบขึ้นรูป ซึ่งเป็นวิธีการแปรรูปที่ต้องนำอะลูมิเนียมที่มีขนาดใกล้เคียงกับชิ้นงานที่ต้องการไปอุ่นให้ร้อน 350-500 องศาเซลเซียส แล้วใช้แรงอัดหรือแรงกระแทก เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของแท่งหรือชิ้นส่วนอะลูมิเนียมให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ รอจนเย็นลง แล้วจึงนำไปตัดแต่งตามต้องการ กระบวนการนี้มักใช้กับโลหะผสมอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงสูง ตัวอย่างผลงานจากการทุบขึ้นรูป ได้แก่ ไม้กอล์ฟ เพลา เฟือง แขนควบคุมสำหรับยานยนต์ และเครื่องมือช่าง
มองหาโรงงานทำแม่พิมพ์คุณภาพสูงสำหรับการขึ้นรูปอะลูมิเนียม เลือกใช้บริการ Molder Enterprise โรงงานรับทำแม่พิมพ์ประสบการณ์สูง ผลิตโมลด์ที่ได้มาตรฐาน ใช้งานได้ยาวนาน ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมที่ได้คุณภาพ ให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนโดยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์ในการผลิตแม่พิมพ์ยาวนานกว่า 25 ปี ราคาคุ้มค่า กระบวนการผลิตได้มาตรฐานระดับสากล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 034-476-173