ในชีวิตประจำวันของเรามีความเกี่ยวข้องกับพลาสติกหลากหลายประเภทอย่างที่เราคาดไม่ถึง ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าพลาสติกมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร
1. Polyethylene Terephthalate (PET or PETE)
ประเภทของพลาสติกชนิดแรกที่จะกล่าวถึง เป็นพลาสติกที่เราทุกคนคุ้นเคยกันดี คือ พลาสติก Polyethylene Terephthalate หรือที่เราเรียกกันว่าพลาสติก PET มักใช้ผลิตเป็นขวดน้ำดื่ม บรรจุอาหาร น้ำมัน สำหรับพลาสติก PET สามารถนำมารีไซเคิลเป็นเส้นใยในการทอผ้า หรือ Upcyling เป็นเสื้อผ้าและสิ่งทอได้
ขั้นตอนของการนำพลาสติก PET มาผลิตเป็นสิ่งทอนั้น จะเริ่มจากการคัดแยกพลาสติก จากนั้นนำมาบดละเอียดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาผ่านความร้อนจนกลายเป็นของเหลว แล้วฉีดเป็นเส้นใย จากนั้นนำมาทอเป็นผืนใช้งาน
2. High-Density Polyethylene (HDPE)
พลาสติกอีกประเภทหนึ่งที่เราใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่บ่อยครั้งคือ พลาสติก HDPE เป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง และมักจะเป็นพลาสติกสีขาวขุ่น หรือสีทึบ
พลาสติก HDPE มักจะนำมาใช้ในการบรรจุแชมพู ผลิตภัณฑ์ซักผ้า กระปุกยา ขวดนมพาสเจอไรซ์ ของเล่น ท่อน้ำ เป็นต้น
3. Polyvinyl Chloride (PVC or Vinyl)
PVC เป็นพลาสติกที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในงานก่อสร้าง อย่างท่อ PVC เป็นอีกหนึ่งประเภทของพลาสติกที่มีความเหนียวและทนทาน ซึ่งนอกจากนำมาผลิตเป็นท่อน้ำแล้ว ยังนำมาผลิตเป็นชิ้นงานอื่น ๆ ที่ต้องการความเหนียวและทนทาน อย่างรางน้ำสำหรับเกษตรกรรม ของเล่นเด็ก ม่านห้องน้ำ กรวยจราจร บัตรเครดิต ไปจนถึงหน้ากากออกซิเจน
4. Low-Density Polyethylene (LDPE)
LDPE เป็นประเภทของพลาสติกที่เราพบในชีวิตประจำวัน เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น ใส นิ่ม สามารถยืดได้ มักผลิตเป็นพลาสติกห่ออาหาร ถุงพลาสติกหูหิ้ว พลาสติกห่อหรือใส่อาหาร และหลังจากที่ผ่านการใช้งานแล้ว หากว่าเราแยกขยะอย่างถูกต้อง พลาสติก LDPE จะถูกนำมารีไซเคิลให้เป็นถุงขยะ ถังขยะ กระเบื้อง
5. Polypropylene (PP)
พลาสติก PP เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวและทนความร้อน จึงผลิตเป็นขวดหรือบรรจุภัณฑ์เพื่อใส่อาหารร้อน หลอด ฝาขวด ถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป ถ้วยโยเกิร์ต กระปุกยา และด้วยคุณสมบัติที่ทนความร้อนได้ดี พลาสติก PP ยังถูกนำไปผลิตเป็นกล่องบรรจุแบตเตอรี่รถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และแปรงต่าง ๆ อีกด้วย
6. Polystyrene (PS or Styrofoam)
พลาสติก PS เป็นประเภทของพลาสติกที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยนัก แต่เชื่อเถอะว่าเราได้ใช้งานกันอยู่ทุกวัน ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อความเป็นกรดด่างได้ดี จึงนำมาใช้ผลิตเป็นเครื่องใช้สำนักงาน และชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นอกจากนี้ พลาสติกประเภทนี้ยังมีราคาถูก จึงนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง อย่างลังไข่ ช้อนส้อมพลาสติก โฟม ฝาแก้วกาแฟ
7. พลาสติกประเภทอื่น ๆ
สำหรับประเภทของพลาสติกชนิดสุดท้าย เป็นพลาสติกที่ไม่อยู่ใน 6 ประเภทข้างต้น แต่เป็นพลาสติกที่สามารถนำมาหลอมและรีไซเคิลได้เช่นเดียวกัน
การรีไซเคิลพลาสติก
ปัจจุบันกระแสการรีไซเคิล หรือการนำขยะพลาสติกมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลและนำมาผลิตใหม่ รวมถึงการ Upcycling หรือการนำขยะหรือของเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่าโดยการตัดแต่งและสร้างสรรค์ไอเดียเข้าไปเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ก็กำลังเป็นที่นิยม แต่สิ่งสำคัญคือ การแยกขยะให้ถูกต้องตามประเภท เนื่องจากในบรรจุภัณฑ์ 1 ชิ้น อาจจะมีพลาสติกหลากหลายประเภทอยู่รวมกัน
ตัวอย่างเช่น น้ำดื่ม 1 ขวด จะถูกแบ่งเป็นตัวขวด ฝา และฉลาก ซึ่งการแยกขยะพลาสติกที่ถูกต้อง เราจะต้องแยกพลาสติก 3 ประเภทนี้ออกจากกัน เพื่อง่ายต่อการรีไซเคิล
สำหรับการรีไซเคิลพลาสติกจะแบ่งการรีไซเคิลออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ
- การรีไซเคิลพลาสติกแบบปฐมภูมิ (Primary recycling) เป็นการนำพลาสติกประเภทเดียวกัน ไม่มีวัสดุอื่นมาเจือปน นำมาใช้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
- การรีไซเคิลแบบทุติยภูมิ (Secondary recycling) เป็นการนำเอาพลาสติกมาทำความสะอาด ล้างสิ่งสกปรกออกจนหมด แล้วบดฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาหลอมและขึ้นรูปใหม่อีกครั้ง
- การรีไซเคิลแบบตติยภูมิ (Tertiary recycling) สามารถแบ่งเป็นการรีไซเคิลทางเคมีและความร้อน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายพันธะไฮโดรคาร์บอน
- การรีไซเคิลแบบจตุภูมิ (Quaternary recycling) เป็นการนำพลาสติกมาเผาไหม้เป็นพลังงานทดแทน
หากว่าคุณกำลังต้องการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่ได้คุณภาพ Molder Enterprise บริษัทผลิตแม่พิมพ์พลาสติกที่ตอบโจทย์ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ดูแลคุณทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกประเภทของเม็ดพลาสติก การผลิตแม่พิมพ์ ไปจนถึงการผลิตเป็นชิ้นงาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 034-476-17